วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2560

เรื่องย่อ ย้อนรอยรัก (My Sunshine)




บทประพันธ์: กู้ม่าน
กำกับ: หลิวจวิ้นเจี๋ย (ชาวไต้หวัน)
เขียนบท: กู้ม่าน, โม่เป่าเฟยเป่า
แนวละคร: โรแมนติก
จำนวนตอน: 32 (ทีวี) + 4 (Director's Cut) / 36 (ออนไลน์)
ออกอากาศ: จีน - 11 มกราคม 2558 ทางดราก้อนทีวี, เจียงซูทีวี 
                  ไทย - ทุกวันจันทร์-พุธ เวลา 13.30 น. ทางอมรินทร์ทีวี ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2559 - 15 กุมภาพันธ์ 2560




ละคร "ย้อนรอยรัก (My Sunshine)" ดัดแปลงมาจากนวนิยายเรื่อง "何以笙箫默 (Silent Separation)" ของนักเขียนชื่อดังชาวจีน "กู้ม่าน" ผู้ประพันธ์และเขียนบทละคร เรื่อง "ขุนให้อ้วนแล้วชวนมารัก (Boss & Me)" กำกับโดยผู้กำกับชื่อดังชาวไต้หวัน "หลิวจวิ้นเจี๋ย" (ผู้กำกับละคร  "ขุนให้อ้วนแล้วชวนมารัก") เริ่มต้นถ่ายทำที่เซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2557 และปิดกล้องที่อ่าววิคตอเรียในฮ่องกงเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2557 โดยฉากความทรงจำช่วงที่คู่พระนางยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ได้สองนักแสดงหน้าใหม่ "หลัวอวิ๋นซี" และ "อู๋เชี่ยน" มารับบทนำ ครั้นพอมีภาพเบื้องหลังหลุดออกมาก็ถูกชาวเน็ตจวกยับเรื่องหน้าตา ผู้กำกับจึงตัดสินใจถ่ายทำอีกเวอร์ชั่นหนึ่งโดยให้ "จงฮั่นเหลียง" กับ "ถังเยียน" ย้อนวัยเป็นนักศึกษาเสียเอง แต่สุดท้ายทางผู้ผลิตก็เลือกนำเวอร์ชั่นแรกมาออกอากาศอยู่ดี ผู้กำกับจึงนำเวอร์ชั่นที่สองมาใช้ในละคร 4 ตอนพิเศษ  (Director's Cut) ที่เน้นกล่าวสรุปเรื่องราวความรักของคู่พระนาง

เรื่องย่อ



ขณะเป็นนักศึกษาภาควิชาเคมีที่มหาวิทยาลัยฉางหัว "จ้าวโม่เซิง" เกิดตกหลุมรักนักศึกษากฏหมาย "เหออี่เชิน" ตั้งแต่แรกพบ เธอจึงคอยตามติดอี่เชินไปทั่วมหาวิทยาลัย ครั้นพอถูกโม่เซิงตามตื๊อมากๆ เข้าอี่เชินก็เริ่มประทับใจในความสดใสร่าเริงและใสซื่อของเธอ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์จนกลายเป็นคู่รักนักศึกษาในที่สุด เมื่อ "เหออี่เหมย" น้องสาวต่างสายเลือดของอี่เชินแสดงตัวว่าเป็นคนสนิทของอี่เชิงและประกาศตัวเป็นศัตรูหัวใจกับโม่เซิง โม่เซิงจึงรีบไปเคลียร์กับอี่เชินแต่เขากลับแสดงท่าทีเย็นชา ห่างเหิน และหมางเมินใส่เธอ โม่เซิงคิดว่าอี่เหมยกับอี่เชินคบหากันจริงๆ  เลยยอมทำตามความต้องการของพ่อและย้ายไปเรียนต่อที่อเมริกาโดยไม่ทันได้บอกลาใคร

เจ็ดปีต่อมา โม่เซิงซึ่งปัจจุบันกลายเป็นช่างภาพมืออาชีพตัดสินใจเดินทางกลับเมืองจีน และบังเอิญเจออี่เชินคนรักเก่าที่ยากจะตัดใจลืม แม้ทั้งคู่ต่างยังคงโหยหากันและกันแต่การรื้อฟื้นความสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะทั้งคู่ต่างยังคงฝังใจกับเรื่องราวในอดีต ที่สำคัญในช่วงเจ็ดปีที่ทั้งคู่ห่างเหินกัน น้องสาวต่างสายเลือดของอี่เชิน "เหออี่เหมย" ตลอดจนสามีในนามที่อเมริกาของโม่เซิง "อิ้งฮุย" ได้พยายามเข้ามาแทรกกลางระหว่างทั้งคู่ นอกจากนี้อี่เชินยังมีเรื่องโกรธแค้นพ่อของโม่เซิงอีกด้วย แม้สิ่งเหล่านี้จะเป็นอุปสรรคต่อการสานสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่ความเข้าใจผิด ความจริงที่ปรากฏ และบททดสอบที่เกิดขึ้น กลับช่วยสลายปมในใจทำให้ทั้งคู่เข้าใจกันและกันมากขึ้น

เนื้อหาตอนที่ 1



ละครเปิดฉากขึ้นที่สนามบินในสหรัฐอเมริกา "จ้าวโม่เซิง" ซึ่งเป็นช่างภาพมืออาชีพ กำลังจะเดินทางกลับเซี่ยงไฮ้หลังใช้ชีวิตที่อเมริกามานาน 7 ปี พอเช็คอินและโหลดกระเป๋าที่เคาน์เตอร์แล้วเธอก็เดินไปบอกลาชายปริศนาคนหนึ่ง (ละครเผยให้คนดูเห็นเพียงด้านหลังและใบหน้าเบลอๆ ของชายคนดังกล่าว) ชายผู้นั้นบอกเพียงว่า "ถ้าเธอไม่คิดกลับอเมริกา ก็อย่าติดต่อกันอีกเลย" โม่เซิงเห็นดีด้วยและเดินทางกลับเซี่ยงไฮ้ตามลำพังพลางนึกสงสัยว่าคนที่นั่นจะยังจำเธอได้หรือไม่ ครั้นไปถึงสนามบินเซี่ยงไฮ้แล้วเห็นว่าคนอื่นมีแฟนมารอรับ โม่เซิงก็อดนึกถึง 'เขาคนนั้น' ไม่ได้ และคิดว่าถ้าหากเขามารอรับเธอที่นี่ด้วยก็คงดี 

ปรากฏว่า 'เขาคนนั้น' อยู่ที่นั่นจริงๆ ซ้ำยังอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม... ในตอนนั้น "เหออี่เชิน" (ทนายและหนึ่งในผู้ก่อตั้งสำนักงานกฏหมาย "เยวี๋ยน เซี่ยง เหอ") เพิ่งเดินทางกลับจากฮ่องกงและเดินสวนกับโม่เซิงที่สนามบิน แต่ต่างฝ่ายต่างมองไม่เห็นกันแม้จะหยุดยืนหันหลังใกล้ๆ กันก็ตาม ทันทีที่มาถึงเซี่ยงไฮ้อี่เชินและผู้ช่วย (ซึ่งมารอที่สนามบิน) ก็รีบตรงดิ่งไปประชุมเรื่องการควบรวมกิจการที่สำนักงานของลูกค้า โดยมีทนาย "เซี่ยงเหิง" (เพื่อนสนิทและหนึ่งในหุ้นส่วนของอี่เชินไปรอที่นั่นอยู่ก่อนแล้ว ขณะที่โม่เซิงลากกระเป๋าเดินทางไปสัมภาษณ์งานที่นิตยสาร "Treasure" โดยบอกพนักงานที่หน้าเคาน์เตอร์ว่าเธอมีนัดสัมภาษณ์กับบ.ก.จาง (หัวหน้าบ.ก.) 


อี่เชินไปประชุมสาย 10 นาทีเพราะเครื่องบินดีเลย์ ทันทีที่ไปถึงเขาก็พบว่า "สวี่อิ่ง"  (เพื่อนนักศึกษาที่เรียนกฏหมายรุ่นเดียวกัน ก่อนที่เธอจะไปเรียนต่อที่อ๊อกฟอร์ด) เป็นทนายของอีกฝ่าย เธอจับมือและทักทายเขาในฐานะเพื่อนรุ่นเดียวกัน "มิสเตอร์ปีเตอร์" ลูกค้าของเธอได้ยินดังนั้นก็เซอร์ไพรส์เพราะไม่คิดว่าทั้งคู่จะเคยเป็นเพื่อนกัน สวี่อิ่งจึงกล่าวกึ่งประชดว่าทนายเหอ (อี่เชิน) เป็นนักศึกษากฏหมายชื่อดัง ส่วนเธอเป็นแค่นักศึกษาธรรมดา เกรงว่าเขาคงจำเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ อี่เชินนั่งนิ่งไม่ออกความเห็น สวี่อิ่งเห็นว่าอี่เชินมาประชุมสายกว่าคนอื่นจึงถามว่าเขาต้องการเวลาในการเตรียมตัวไหม อี่เชินตอบว่าไม่จำเป็นและสามารถเริ่มประชุมได้ทุกเมื่อ สวี่อิ่งจึงขอพรีเซนต์เป็นคนแรกโดยเริ่มจากการกล่าวสรุปเนื้อหาการประชุมเมื่อ 14 วันก่อน เพราะเกรงว่าอาจมี 'ใครบางคน' จำรายละเอียดไม่ได้

หลังสวี่อิ่งพูดจบ อี่เชินก็ชี้ว่าพวกตนเจรจาเรื่องสัญญาการควบรวมกิจการมานานหนึ่งปีแล้ว ตนจึงจำทุกรายละเอียดได้เป็นอย่างดี เขาขอบคุณทนายสวี่ที่นำเสนอวิธีการพรีเซ็นต์อันยอดเยี่ยมให้ทุกคนดู ก่อนตำหนิที่เธอมัวใช้เวลาและงบประมาณอันมีค่าของลูกค้าไปกับการนำเสนอข้อมูลเก่าที่ผ่านการเห็นชอบแล้ว และหวังว่าในการประชุมครั้งหน้าพวกตนคงไม่สิ้นเปลืองเวลาไปกับเรื่องแบบนี้ เขาชี้ว่าประเด็นสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณาในวันนี้คือสิทธิในการจัดจำหน่ายสินค้าหลังควบรวมกิจการ จากนั้นก็นำเสนอแผนบริหารจัดการสินค้ารูปแบบใหม่ต่อที่ประชุม



ทนายเซี่ยงรู้สึกแปลกใจที่เห็นผู้ประกาศสาว "เหออี่เหมย" มารอรับอี่เชินถึงหน้าห้องประชุม อี่เหมยตัดพ้อทนายเซี่ยงที่ปล่อยให้อี่เชินทำงานหนักราวกับเขาแยกร่างได้ เธอกล่าวว่าอี่เชินเพิ่งกลับจากฮ่องกงแท้ๆ แต่กลับต้องรีบตรงดิ่งมาเข้าประชุม ความจริงแล้วเธอควรเป็นคนไปรับเขาที่สนามบิน แต่ในเมื่อเขาไม่อยู่ที่นั่นเธอเลยต้องตามมารับเขาถึงที่นี่ ทนายเซี่ยงแซวว่าผู้ประกาศของพวกตนมีเวลาว่างมากกว่าที่คิด อี่เหมยแย้งว่าความจริงแล้วเธองานยุ่งมาก แต่ถึงจะยุ่งแค่ไหนเธอก็ต้องมารับทนายคนเก่งไปทานข้าว ไม่อย่างนั้นเขาคงมัวแต่ทำงานจนลืมทานข้าวอีก

สวี่อิ่งได้ฟังดังนั้นจึงคิดว่าอี่เหมยเป็นแฟนใหม่ของอี่เชิน เธอแนะนำตัวกับอี่เหมยโดยบอกว่าตนเป็นเพื่อนนักศึกษาของอี่เชิน อี่เหมยได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตื่นเต้นจึงรีบบอกว่าเมื่อก่อนเธอเคยไปเที่ยวเล่นที่มหาวิทยาลัยฉางหัวบ่อยๆ สวี่อิ่งแย้งว่าตนไม่เคยพบอี่เหมยมาก่อน จากนั้นก็หันไปถามอี่เชินว่าทำไม "จ้าวโม่เซิง" แฟนของเขาถึงไม่มาที่นี่ (อี่เหมยได้ยินดังนั้นก็หน้าจ๋อยไปชั่วขณะ แต่พยายามยิ้มกลบเกลื่อน) เมื่อเห็นอี่เชินยืนนิ่งไม่ยอมตอบ สวี่อิ่งจึงเปรยว่าโม่เซิงคงกลายเป็นอดีตไปแล้วถึงได้มีสาวสวยมารอเขาอยู่ที่นี่ เธอขอโทษอี่เหมยที่พูดเรื่องเก่าๆ ก่อนเปรยว่าอี่เชินจะพูดเรื่องรักแรกต่อหน้าผู้หญิงคนอื่นได้อย่างไร อี่เชินเกรงว่าจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่จึงกล่าวว่าอี่เหมยเป็นน้องสาวของตน (อี่เหมยได้ยินแล้วถึงกับหน้าถอดสี) สวี่อิ่งอ้างว่าครั้งนี้อี่เชินเป็นฝ่ายชนะจึงควรเลี้ยงข้าวพวกตน อี่เชินบ่ายเบี่ยงโดยกล่าวว่าถ้าหุ้นส่วนอีกคนของตนกลับมาเมื่อไหร่ ตนจะเชิญ 'ทุกคน' ไปทานข้าวอย่างแน่นอน 


บ.ก.จางเห็นเรซูเม่และประวัติการทำงานของโม่เซิงแล้วรู้สึกพึงพอใจ เธอบอกตามตรงว่าตนตัดสินใจรับโม่เซิงเข้าทำงานตั้งแต่ตอนที่โทรฯ คุยกันก่อนหน้านี้แล้ว แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมโม่เซิงถึงยอมทิ้งทุกสิ่งในอเมริกาแล้วกลับมาเริ่มต้นใหม่ที่เมืองจีน ทั้งๆ ที่อาชีพช่างภาพของโม่เซิงกำลังไปได้สวย โม่เซิงอึ้งไปชั่วขณะก่อนตอบเพียงว่าเธอเคยเรียนมหาวิทยาลัยที่นี่และชอบที่นี่มากเลยกลับมา 

อี่เหมยเห็นว่าอี่เชินยังคงสนใจแต่เรื่องงานทั้งๆ ที่นั่งอยู่ในรถของตนจึงขอให้เขาลืมเรื่องงานแล้วหันมาคุยกับตนบ้าง เธอเดาออกว่าสวี่อิ่งมีใจให้อี่เชินตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัย แถมสวี่อิงยังพูดถึง 'คนนั้น' แสดงว่ารู้จักอี่เชินดี อี่เหมยกล่าวว่าความจริงแล้วที่สวี่อิ่งพูดมาก็ไม่ผิด ตลอดหลายปีที่ผ่านมาอี่เชินไม่เคยคบหาใคร แล้วทำไมถึงไม่ลองพิจารณาใครสักคน (เช่น เธอ เป็นต้น) อี่เชินตอบทันควันว่าไม่จำเป็น ทันใดนั้นโทรศัพท์ของอี่เชินก็สั่นเตือนว่ามีสายเข้า อี่เหมยได้ยินว่าอี่เชินจะเดินทางไปอเมริกาเดือนหน้าจึงสงสัยว่าเขาจะไปตามหาเธอคนนั้นหรือ พอรู้ว่าอี่เชินไปเรื่องงานเธอก็รู้สึกโล่งใจ เธอชวนอี่เชินไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตหลังทานข้าว จากนั้นค่อยไปดูหนังกันต่อ แต่อี่เชินปฏิเสธที่จะไปดูหนังโดยอ้างว่าตนมีธุระ และแนะให้อี่เหมยหาแฟนสักคน 




อี่เหมยได้ยินแล้วรู้สึกเจ็บปวดใจ เธอมัวแต่ครุ่นคิดถึงเรื่องดังกล่าวจนทำให้เกือบขับรถชน  "ลู่เหยวี่ยนเฟิง" พอหายตกใจแล้วอี่เชินก็รีบลงไปขอโทษและสอบถามอาการเหยวี่ยนเฟิงที่รถมอเตอร์ไซค์ล้มจนข้อศอกเป็นแผล แต่เหยวี่ยนเฟิงกล่าวว่าตนไม่เป็นไรและไม่ระวังเอง อี่เชินแนะให้เขาไปตรวจเช็คอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาล จากนั้นก็ยื่นนามบัตรให้โดยบอกว่าหากมีปัญหาอะไรให้โทรฯ หาตน เหยวี่ยนเฟิงเห็นอี่เหมยผลุบๆ โผล่ๆ หลังพวงมาลัยจึงถามอี่เชินว่าเธอเป็นอะไรหรือเปล่า เพราะดูท่าทางแล้วเธอคงตกใจกลัว อี่เชินส่งสัญญาณแกมบังคับให้อี่เหมยรีบลงจากรถ เธอจึงลงมาขอโทษเหยวี่ยนเฟิงแบบกล้าๆ กลัวๆ พอเห็นว่าคู่กรณีของตนคือเหออี่เหมย เหยวี่ยนเฟิงก็รู้สึกตื่นเต้นและเป็นปลื้ม เขาบอกว่าแม่ตนเป็นแฟนรายการของอี่เหมย จากนั้นก็ถือโอกาสขอลายเซ็น (เขาให้เธอเซ็นลงบนนามบัตรของอี่เชิน) และขอถ่ายรูปเซลฟี่กับเธอโดยสัญญาว่าจะไม่นำไปแชร์ให้คนอื่นดู อี่เชินเห็นดังนั้นก็รู้สึกผิดคาด 

บ.ก.จางถามโม่เซิงว่าถ้าเริ่มต้นทำงานในวันพรุ่งนี้จะไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม โม่เซิงกล่าวว่าเรื่องงานไม่มีปัญหาแต่เธอต้องหาที่พักให้ได้ภายในวันนี้ บ.ก.จางเห็นเหยวี่ยนเฟิงเดินเข้ามาในออฟฟิศโดยมีผ้าพันแผลที่ข้อศอกจึงสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น เหยวี่ยนเฟิงกล่าวว่าเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยระหว่างทางมาออฟฟิศ ตนเลยเจ็บตัวนิดหน่อยแต่อีกไม่นานก็คงหาย เขาถามบ.ก.จางว่าโม่เซิงเป็นพนักงานใหม่หรือ บ.ก.จางจึงแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักกัน หลังจากนั้น บ.ก.จางก็บ่นเหยวี่ยนเฟิงเป็นชุดที่ไม่ระวังจนทำให้แขนบาดเจ็บทั้งๆ ที่เขาต้องถ่ายแฟชั่นเซ็ทปกนิตยสารฉบับหน้า แถมนางแบบยังเป็น "เซียวเสี่ยว" ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเอาแต่ใจและเรื่องมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทีมงานที่เธอไม่คุ้นเคย เมื่อบ.ก.จางบ่นเรื่องที่เธอต้องหาช่างภาพคนใหม่มาทำงานแทน เหยวี่ยนเฟิงจึงเตือนว่าโม่เซิงเป็นช่างภาพคนใหม่ไม่ใช่หรือ บ.ก.จางจึงมอบหมายให้โม่เซิงทำหน้าที่แทนเหยวี่ยนเฟิง


หลังพาโม่เซิงมาที่โต๊ะทำงานและแนะนำให้เพื่อนร่วมงานรู้จัก เหยวี่ยนเฟิงก็ถามโม่เซิงว่าทำไมเธอถึงหิ้วกระเป๋าเดินทางมาด้วย พอรู้ว่าโม่เซิงเพิ่งเดินทางมาจากต่างประเทศและยังไม่มีที่พัก เหยวี่ยนเฟิงจึงพาโม่เซิงไปพักที่บ้านเพื่อนของตน (ซึ่งเพิ่งย้ายไปอยู่ต่างประเทศและปล่อยห้องให้เช่า) จากนั้นก็อาสาช่วยทำความสะอาด แต่โม่เซิงบอกว่าเธอจะจัดการเอง หลังเหยวี่ยนเฟิงออกจากห้องไปแล้ว โม่เซิงก็นึกถึงคำพูดของบ.ก.จางที่ถามเธอว่า ทำไมถึงยอมทิ้งทุกสิ่งในอเมริกาแล้วกลับมาเริ่มต้นใหม่ที่เมืองจีน หลังจากนั้นเธอก็ครุ่นคิดว่า "เมืองนี้ออกจะกว้างใหญ่ แล้วชั้นจะได้เจอเธออีกมั๊ยนะ ชั้นกลับมาแล้ว...อี่เชิน!" 


โม่เซิงออกไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ขณะที่อี่เชินกับอี่เหมยก็กำลังเดินทางไปซื้ออาหารที่นั่นเช่นกัน อี่เชินบอกให้อี่เหมยตรงไปซื้ออาหารที่ชั้นสามเลยเพราะเขามีเวลาไม่มาก อีกไม่นานก็จะได้เวลาประชุมแบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับบริษัทที่ประเทศอังกฤษแล้ว ปรากฏว่าในตอนนั้นโม่เซิงก็กำลังเลือกซื้ออาหารที่ชั้นสามเช่นกัน หลังเดินสวนกันไปมาโดยไม่รู้ตัวหลายรอบ ในที่สุดโม่เซิงก็เห็นอี่เชินกำลังเลือกซื้อของกับอี่เหมย เธอคิดในใจว่า "เป็นไปได้ยังไง พอมาถึงก็เจออี่เชินเลย พวกเขาอยู่ด้วยกันจริงๆ ด้วย" ทันใดนั้นก็มีคนเข็นรถมาชนรถเข็นของโม่เซิงเข้าอย่างจัง โม่เซิงรีบวิ่งตามไปคว้ารถเข็นซึ่งกำลังพุ่งเข้าหากระป๋องเครื่องดื่ม (น้ำผลไม้อัดลม) ที่ตั้งเรียงรายอยู่บนพื้นแต่ก็สายเกินไป รถเข็นของเธอพุ่งชนกองกระป๋องเครื่องดื่มจนพลิกคว่ำทำให้เครื่องดื่มนับร้อยกระป๋องร่วงลงบนพื้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว 




อี่เหมยได้ยินดังนั้นจึงเดินไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ทำให้เห็นโม่เซิงยืนตะลึงอยู่ตรงหน้ากระป๋องเครื่องดื่มที่ร่วงกระจายเกลื่อนพื้น เมื่ออี่เชินเดินตามอี่เหมยไปก็ได้พบโม่เซิงเป็นครั้งแรกในรอบเจ็ดปี ทั้งสามคนต่างยืนอึ้งเพราะนึกไม่ถึงว่าจะได้เจอกัน อี่เหมยเห็นโม่เซิงกับอี่เชินได้แต่ยืนจ้องหน้ากันจึงถามอี่เชินว่าจะไม่เข้าไปทักทายหน่อยหรือ แต่อี่เชินกลับไม่สนใจและเข็นรถผ่านโม่เซิงไปราวกับเธอไม่มีตัวตน อี่เหมยจึงก้มหน้าทักทายโม่เซิงเล็กน้อยก่อนเดินตามอี่เชินไปเงียบๆ ทิ้งให้โม่เซิงยืนช็อคอยู่ตามลำพัง

ขณะอยู่ในรถทั้งอี่เหมยและอี่เชินต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด อี่เหมยจึงทำลายความเงียบด้วยการบอกให้อี่เชินขับรถตรงไปที่บ้านเขาเลย หลังจากนั้นเธอจะขับกลับบ้านเอง แต่อี่เชินยืนกรานว่าจะขับรถไปส่งเธอที่บ้านโดยจะนั่งแท็กซี่กลับเอง  อี่เหมยครุ่นคิดในใจด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า "ชั้นกลัวจริงๆ ว่าพี่จะโผเข้าไปหา แต่พี่กลับเดินหนีแบบนั้นได้ยังไง มันทำให้ชั้นยิ่งไม่สบายใจ"


หลังกลับถึงบ้าน ใบหน้าของโม่เซิงยังคงติดตาและรบกวนจิตใจของอี่เชิน แม้เขาจะบอกตัวเอง ว่า "เธอไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตชั้นมานานแล้ว" แต่เขากลับไม่มีสมาธิในการทำงานจนต้องโทรฯ ไปบอกเพื่อนร่วมงานให้ประชุมทางไกลแทน โดยอ้างว่าแล็ปท็อปมีปัญหา เช้าวันรุ่งขึ้นทนายเซี่ยงเห็นอี่เชินมาทำงานสายหนึ่งชั่วโมงแถมเมื่อคืนยังไม่ร่วมประชุมทางไกลทั้งที่ปกติเขาเป็นคนบ้างาน จึงสงสัยว่าอี่เชินอาจมีเรื่องรบกวนจิตใจ อี่เชินปฏิเสธว่าตนไม่ได้เป็นอะไรเพียงแต่เพิ่งกลับจากศาล  ทนายเซี่ยงไม่เชื่อจึงยืนจ้องหน้าอี่เชินหมายคาดคั้นความจริง อี่เชินจึงบอกว่าถ้าทนายเซี่ยงว่างมากก็แบ่งงานของตนไปทำบ้าง จากนั้นก็เดินหนีไป ทนายเซี่ยงเห็นว่าอี่เชินอารมณ์แปรปรวนทั้งที่ปกติเป็นคนสุขุม จึงเปรยว่าไม่ได้เห็นอี่เชินในสภาพนี้มานานหลายปีแล้ว



โม่เซิงเริ่มงานวันแรกที่เซี่ยงไฮ้ด้วยการถ่ายแฟชั่นเซ็ทปกนิตยสารแทนเหยวี่ยนเฟิง แต่เหยวี่ยนเฟิงเป็นห่วงทั้งงานและโม่เซิงเลยตามมาช่วยทั้งๆ ที่เขาได้รับอนุญาตให้หยุดพัก เขาเห็นว่าโม่เซิงเพิ่งเริ่มทำงานเป็นวันแรกเลยไม่อยากให้โม่เซิงโดนเซียวเสี่ยว (นางแบบปก) เหวี่ยงใส่จนร้องไห้และเสียกำลังใจในการทำงาน จากนั้นก็เตือนโม่เซิงว่าเซียวเสี่ยวเป็นจอมเหวี่ยงที่รับมือและร่วมงานด้วยยาก แต่โม่เซิงไม่รู้สึกเป็นกังวลเพราะเธอเคยถ่ายภาพคนดังมาก่อน ที่แท้เซียวเสี่ยวคือ "หลินเสี่ยวเหมย" เพื่อนนักศึกษาและรูมเมทของโม่เซิง โม่เซิงดีใจที่ได้พบเพื่อนเก่าอีกครั้ง แต่เซียวเสี่ยวกลับแสดงท่าทีที่เย็นชาและห่างเหินใส่โม่เซิง โม่เซิงจะเอื้อมมือไปทักทายเซียวเสี่ยวในฐานะที่เคยเป็นเพื่อนสนิท แต่เซียวเสี่ยวกลับตัดบทโดยบอกให้เริ่มงานทันที

หลังถ่ายภาพได้หนึ่งชั่วโมง โม่เซิงก็บอกให้ทุกคนหยุดพัก เหยวี่ยนเฟิงนำกาแฟมาให้โม่เซิงแล้วกล่าวว่าพอได้ร่วมงานกับช่างภาพมากประสบการณ์อย่างโม่เซิง เซียวเสี่ยวก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี วันนี้เธอไม่แผลงฤทธิ์ทั้งที่ถ่ายภาพมานานหนึ่งชั่วโมงแล้ว ผิดกับเมื่อวานที่ถ่ายได้แค่ 10 นาทีเซียวเสี่ยวก็วีนใส่ตน โม่เซิงดูภาพแล้วมีสีหน้ากังวลเพราะภาพที่ได้ไม่เป็นไปตามที่เธอต้องการและยังห่างจากธีมปกมาก แต่เหยวี่ยนเฟิงดูแล้วกลับพอใจ เขาเตือนโม่เซิงว่าอย่าหักโหมหรือกดดันเซียวเสี่ยวมากเกินไป ทำเท่าที่เซียวเสี่ยวพอใจก็พอ


อยู่ๆ เซียวเสี่ยวก็ชวนโม่เซิงไปดื่มกาแฟด้วยกัน ความจริงแล้วโม่เซิงมีคำถามมากมายที่อยากจะถามเซียวเสี่ยว แต่เธอไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นตรงไหนดีจึงได้แต่นั่งเงียบ หลังพนักงานนำกาแฟมาเสิร์ฟ เซียวเสี่ยวก็เปิดฉากพูดโดยกล่าวว่าความจริงแล้วตนออยากชวนโม่เซิงไปหาอะไรดื่ม แต่บังเอิญช่วงนี้ท้องไส้ไม่ค่อยดีเลยดื่มได้แต่กาแฟ  โม่เซิงแนะให้เซียวเสี่ยวดื่มนมและลดน้ำหนักอย่างพอเหมาะเพื่อจะได้มีสุขภาพที่ดี เซียวเสี่ยวแย้งว่าตนไม่ได้กำลังลดน้ำหนักแต่ตนติดสุรา พอโดนทักว่าตนเองเปลี่ยนไปมาก เซียวเสี่ยวก็ยอมรับและบอกว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะที่ผ่านมาตนต้องสูญเสียครอบครัว เงินทอง และผิดหวังด้านความรัก แถมยังโดนเพื่อนรักทิ้งอีกด้วย ผิดกับโม่เซิงที่ไม่ค่อยเปลี่ยนและยังคงเสแสร้งแกล้งทำเป็นไม่แยแสเหมือนเดิม

เมื่อถูกถามว่าคิดยังไงถึงหันหลังให้ดินแดนแห่งโอกาสอย่างอเมริกา โม่เซิงทั้งปวดใจและรู้สึกผิดจึงขอโทษเซียวเสี่ยวที่จากไปโดยไม่บอกกล่าว แต่เซียวเสี่ยวบอกให้เธอเก็บคำขอโทษไปบอกอี่เชิน โม่เซิงเพิ่งเห็นกับตาว่าอี่เชินอยู่กับอี่เหมย มิหนำซ้ำเขายังไม่ยินดียินร้ายหลังพบกันเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี เลยคิดว่าพูดไปก็ไม่ประโยชน์เพราะอี่เชินเปลี่ยนไปแล้ว  เซียวเสี่ยวจึงเหน็บโม่เซิงที่คิดว่าคนอื่นจะไร้ความรู้สึกและไร้หัวใจเหมือนอย่างเธอ จากนั้นก็เล่าว่าวันแรกๆ ที่โม่เซิงหายตัวไป อี่เชินเที่ยวออกตามหาเธอจนแทบเป็นบ้า หลังจากนั้นเขาก็มารอเธอที่บันไดหอพักทุกวัน แต่แล้วอยู่ๆ กลับมีคนกลุ่มหนึ่งมาขนของๆ เธอออกไป ก่อนบอกอี่เชินและพวกตนว่าโม่เซิงไปอยู่ที่อเมริกาแล้วและอาจไม่กลับมาอีก


เซียวเสี่ยวประณามโม่เซิงว่าเป็นคนใจร้าย เธอกล่าวว่าตนยังจำสภาพอันน่าอเนจอนาถของอี่เชินในตอนนั้นได้ติดตา ไม่คิดเลยว่าคนหยิ่งทะนงจะตกอยู่ในสภาพนั้นได้ โม่เซิงกล่าวว่าบางทีอี่เชินอาจรู้สึกผิด เซียวเสี่ยวแย้งว่าคนที่ทิ้งอี่เชินแล้วหนีไปอยู่ที่อเมริกาคือโม่เซิง ดังนั้นเธอต่างหากที่ควรรู้สึกผิด โม่เซิงแย้งกลับว่าเซียวเสี่ยวต่างหากที่ไม่เข้าใจ แต่เซียวเสี่ยวบอกว่าตนเห็นกับตาว่าอะไรเป็นอะไร โม่เซิงรู้ดีว่าพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ เธอจึงได้แต่ครุ่นคิดในใจว่า ทุกคนต่างคิดว่าเธอทิ้งอี่เชินแต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น จริงๆ แล้วเขาต่างหากที่เป็นคนบอกเธอว่าไม่อยากเห็นหน้าเธออีกต่อไป และไม่น่าพบกันเลย โม่เซิงไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องเก่าๆ เลยขอให้เปลี่ยนเรื่องพูด เซียวเสี่ยวถามว่าระหว่างพวกตนยังมีอะไรต้องพูดกันอีกหรือ โม่เซิงจึงชวนคุยเรื่องการถ่ายแบบในตอนบ่าย


หลังทั้งคู่กลับจากดื่มกาแฟ เหยวี่ยนเฟิงเห็นเซียวเสี่ยวมีสีหน้าไม่สู้ดีนักจึงสงสัยว่าโม่เซิงกับเซียวเสี่ยวอาจมีเรื่องบาดหมางใจกัน แต่โม่เซิงปฏิเสธว่าไม่มีอะไรและบอกให้เริ่มทำงานต่อ ในที่สุดเซียวเสี่ยวก็แผลงฤทธิ์จนได้ เพราะอยู่ๆ เธอก็ขอยกเลิกการถ่ายแฟชั่นช่วงบ่ายแบบกระทันหันโดยอ้างว่ารู้สึกไม่สบาย เหยวี่ยนเฟิงได้ยินแล้วของขึ้นเพราะนี่ไม่ใช่วันแรกที่เซียวเสี่ยวหยุดถ่ายกลางคัน เขาตำหนิเธอที่ไม่เป็นมืออาชีพและชี้ว่าในแต่ละวันพวกตนต้องแบกรับค่าเช่าสตูดิโอและค่าใช้จ่ายต่างๆ อีกมากมาย แถมยังจ่ายค่าตัวเซียวเสี่ยวเรียบร้อยแล้วด้วย ถ้าหากเธออยากยกเลิกการถ่ายแฟชั่นก็ชดใช้เสียหายมา เซียวเสี่ยวกล่าวว่าตนอุตส่าห์ไว้หน้าเหยวี่ยนเฟิงด้วยการอ้างว่าไม่สบายแต่เหยวี่ยนเฟิงกลับทำให้ตนรู้สึกแย่ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ทั้งคู่เริ่มมีปากเสียงกัน

* เนื้อหาโดย luvasianseries






นักแสดงนำ


จงฮั่นเหลียง (วอลเลซ จง)
รับบท เหออี่เชิน
(นักแสดง / นักร้อง ชาวฮ่องกง)



ถังเยียน (ทิฟฟานี่ ถัง)
รับบท จ้าวโม่เซิง
(นักแสดง ชาวจีน)



ถานข่าย
รับบท อิ้งฮุย
(นักแสดง ชาวจีน)



เจียเริ่นจือ
รับบท เหออี่เหมย
(นักแสดง ชาวจีน)



หยางเล่อ
รับบท ลู่เหยวี่ยนเฟิง
(นักแสดง ชาวจีน)



 หมี่ลู่
รับบท เซียวเสี่ยว / หลินเสี่ยวเหมย
(นักแสดง / นางแบบ ชาวจีน)



หลัวอวิ๋นซี
รับบท เหออี่เชิน (วัยรุ่น)
 (นักร้อง / นักแสดง ชาวจีน) 



อู๋เชี่ยน
 รับบท จ้าวโม่เซิง (วัยรุ่น)
(นักแสดง ชาวจีน) 





รวมคลิปตัวอย่าง เอ็มวี และเบื้องหลัง จาก Croton Media|FRESH


*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา