วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เรื่องย่อ ฟ้าสั่งให้รักเธอ (Destined to Love you)




กำกับ: อู๋จิ่นเยวี๋ยน, เติ้งเหยี่ยนเฉิง, เฉินกั๋วหัว
เขียนบท: เฉียนจิงจิง, เหมยอิงจู
แนวละคร: โรแมนติก, ย้อนยุค, การทหาร
จำนวนตอน: 44
ออกอากาศ: จีน - 16 มิถุนายน 2558 ทางหูหนานทีวี
                ไทย - ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.15-14.00 น. ทางไทยรัฐทีวี ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2559 - 18 พฤศจิกายน 2559

เรื่องย่อ



ละคร "ฟ้าสั่งให้รักเธอ (Destined to Love you)" กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ขึ้นราวปี ค.ศ. 1916 (พ.ศ. 2459) หลังราชวงศ์ชิงถูกโค่นล้มและมีการก่อตั้งสาธารณรัฐจีนได้เพียง 4 ปี เนื้อหากล่าวถึงเด็กสาวสู้ชีวิตและแสนกตัญญูนามว่า "เฉียนเป๋าเป่า" ซึ่งแอบสวมรอยเป็น "เซียวหาน" (นักจิตวิทยาที่เพิ่งเรียนจบปริญญาเอกจากประเทศเยอรมนี และกำลังจะเดินทางไปเป็นอาจารย์สอนวิชาจิตวิทยาที่โรงเรียนทหารหลงเฉิง แต่มีเหตุให้พลัดตกรถไฟไปเสียก่อน) หวังให้แม่ที่กำลังป่วยหนักได้รับสิทธิในการรักษาที่โรงพยาบาลทหาร และนั่นก็ทำให้เธอได้พบกับสองนักเรียนหนุ่ม "เซี่ยงฮ่าว" (คู่หมั้นของเซียวหาน) และ "เสิ่นเหวินเทา" จนเกิดปัญหารักสามเส้าตามมา



 

ละครเริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวละครหลัก โดยเปิดฉากขึ้นที่เมืองหยางเฉิง "เซี่ยงฮ่าว" ซึ่งสวมเสื้อคลุมทหารแต่สภาพกลับแลดูเหมือนคนเร่ร่อนกำลังนอนพิงลังที่หน้าหอนาฬิกา อยู่ๆ ก็มีแก๊งทวงหนี้ออกมาทวงเงินเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ทั้งยังอาละวาดทำลายข้าวของที่พ่อค้าแม่ค้านำมาขายอีกด้วย เซี่ยงฮ่าวได้ยินดังนั้นก็รู้สึกรำคาญจึงปาก้อนหินใส่หน้าจอมอันธพาลร่างเล็ก เมื่อเห็นว่าตนและลูกน้องสู้เซี่ยงฮ่าว (ที่ยังคงนอนหลับตา) ไม่ได้ ชายคนดังกล่าวจึงร้องตะโกนให้พรรคพวก (แก๊งขวาน) มาช่วย ทำให้เหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าและผู้คนในบริเวณนั้นต่างพากันสลายตัวและปิดร้านในบัดดล ไม่นานเหล่าชายชุดดำนับร้อยที่มีขวานเป็นอาวุธก็พากันมาปิดล้อมหอนาฬิกา

หัวหน้าแก๊งขวานกล่าวกับเซี่ยงฮ่าวว่าไม่ว่าใครก็อย่าได้บังอาจแตะต้องสมาชิกหรือแม้แต่หมาของแก๊งขวาน เซี่ยงฮ่าวหาได้หวั่นซ้ำยังประณามว่าแก๊งขวานก็แค่พวกอันธพาลที่ชอบทำตัวหนักแผ่นดินและเที่ยวข่มเหงรังแกชาวบ้านไปวันๆ หัวหน้าแก๊งขวานได้ยินดังนั้นจึงสั่งให้ลูกน้องฆ่าเซี่ยงฮ่าวทันที แม้เซี่ยงฮ่าวจะไม่มีอาวุธและต้องสู้เพียงลำพังแต่เขาก็ยังสามารถรับมือและจัดการแก๊งขวานจนอยู่หมัด ทั้งอัดหัวหน้าแก๊งจนน่วม แต่หลังจัดการแก๊งขวานได้แล้วเขาก็ถูก "เหอฟู่กวน" นำกำลังพร้อมอาวุธมาควบคุมตัว



ในขณะที่ "เฉียนเป๋าเป่า" กำลังแสดงกายกรรมโหนผ้าที่คณะเซอร์คัส เจ้าหนี้ก็บุกมาตามรังควานเธอถึงที่ทั้งๆ ที่เธอคืนเงินให้แล้ว (เจ้าหนี้อ้างว่าที่เงินเธอจ่ายเป็นเพียงดอกเบี้ย) เธอจึงต้องสู้ไปแสดงไป และนั่นก็ยิ่งทำให้คนดูสนุกสนานตื่นเต้นเพราะคิดว่าฉากบู๊ที่อยู่ตรงหน้าคือการแสดงล้วนๆ หลังแสดงโหนผ้าจบแล้ว เจ้าหนี้ยังตามเป๋าเป่าไปที่เต็นท์ดูดวง และเวทีขว้างมีด เป๋าเป่าเลยงัดเอาความสามารถในด้านศิลปะการต่อสู้ กายกรรม และการขว้างมีดมาจัดการเจ้าหนี้ โดยปามีดตรึงหัวหน้าแก๊งเอาไว้กับแป้นหมุน

ท่านนายพลเชิญผู้บัญชาการกองทัพ "เสิ่นกั๋วซุ่น" (พ่อเสิ่นเหวินเทา) ตลอดจน "เซี่ยงเส้าต๋า" (เสนาธิการทหาร/พ่อเซี่ยงฮ่าว) และ "หลี่จี้โจว" (ผอ.โรงเรียนทหารหลงเฉิง) มาพบที่บ้านพัก ระหว่างรอเข้าพบ ผบ.เสิ่นบอกผอ.หลี่ว่าท่านนายพลน่าจะเรียกพวกตนมาพบเพื่อหารือเรื่องการทดสอบที่โรงเรียนทหารในวันพรุ่งนี้ ผอ.หลี่กล่าวว่าตนเองก็คิดเช่นนั้นและรีบพูดยกยอว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาผบ.เสิ่นได้รับความไว้วางใจจากท่านนายพลมาโดยตลอด ส่วนเหวินเทาบุตรชายของผบ.เสิ่นก็มีความสามารถอันโดดเด่นจึงน่าจะทำคะแนนได้เป็นอันดับหนึ่ง ดังนั้น อนาคตของตระกูลเสิ่นจะต้องสดใสอย่างแน่นอน


ผบ.เสิ่นแกล้งถ่อมตัวว่าลูกชายตนก็แค่โชคดีที่ถูกท่านนายพลโปรดปราน แต่ฝีมือยังสู้เซี่ยงฮ่าวลูกชายของสหายเก่าอย่างเซี่ยงเส้าต๋าไม่ได้  อยู่ๆ เซี่ยงฮ่าวนึกจะไปก็ไป ไม่สนใจลาภยศสรรเสริญ การทดสอบรอบนี้เซี่ยงฮ่าวไม่อยู่ ลูกชายของตนถึงได้ถูกจับตามองแทน หลังนั่งเงียบอยู่นานเซี่ยงเส้าต๋าจึงบอกผบ.เสิ่นว่า ตนหาเซี่ยงฮ่าวเจอแล้วและเซี่ยงฮ่าวจะมาถึงที่นี่ในวันพรุ่งนี้ ไม่ว่ายังไงลูกของตนจะต้องมารายงานตัวทันอย่างแน่นอน ผบ.เสิ่นได้ยินดังนั้นก็ถึงกับหน้าถอดสีด้วยความผิดหวัง ส่วนผอ.หลี่แกล้งทำเป็นแสดงความยินดีและกล่าวว่าการทดสอบคราวนี้ช่างน่าสนใจยิ่งนัก

หลังถูกเจ้าหนี้ตามรังควาญไม่เลิก เป๋าเป่าจึงรีบพาแม่ซึ่งกำลังป่วยหนีเจ้าหนี้ไปที่สถานีรถไฟ โดยตั้งใจว่าจะหนีไปตายเอาดาบหน้าด้วยการขึ้นรถไฟขบวนแรกที่ออกเดินทางไม่ว่ารถไฟสายนั้นจะพาไปยังที่ใดก็ตาม ครั้นพอเป๋าเป่าไปซื้อตั๋วก็พบว่าค่าโดยสารสำหรับสองคนนั้นแพงเกินกำลัง เธอจึงพาแม่เดินปะปนกับผู้โดยสารกลุ่มใหญ่ที่มีตั๋วเข้าไปในชานชาลา หลังจากนั้นก็ฉวยโอกาสช่วงที่ฟู่กวนนำกำลังเจ้าหน้าที่คุมตัวเซี่ยงฮ่าวขึ้นรถไฟโดยแอบเดินตามไปแบบเนียนๆ ราวกับว่ามาด้วยกัน

หลังถูกพาขึ้นไปคุมตัวในห้องส่วนตัวสุดหรูบนรถไฟได้ไม่นาน เซี่ยงฮ่าวก็แอบเปิดประตูและพยายามหลบหนีแต่ถูกเจ้าหน้าที่คว้าตัวไว้ในทันที เขาจึงรีบคว้าแขนเป๋าเป่า (ซึ่งเดินผ่านหน้าห้องพอดี) เอาไว้เพื่อไม่ให้ถูกลากเข้าห้อง ทำให้เกิดการยื้อยุดกันขึ้นเป็นที่ชุลมุน เจ้าหน้าที่ช่วยกันดึงตัวเซี่ยงฮ่าวซึ่งคว้าแขนคว้าคอเป๋าเป่าไม่ยอมปล่อย เป๋าเป่าทั้งกระทืบเท้าและผลักหน้าเซี่ยงฮ่าวแต่ก็แกะเขาออกไม่สำเร็จ ขณะที่แม่เป๋าเป่าพยายามดึงตัวลูกสาวตนเอาไว้ หลังยื้อยุดกันได้ครู่หนึ่งเซี่ยงฮ่าวก็ดึงแขนเสื้อเป๋าเป่าจนขาด ทำให้เป๋าเป่ากับแม่เสียหลักล้มลงไปนั่งกับพื้น ส่วนเซี่ยงฮ่าวถูกแบกกลับเข้าห้องทันที หลังจากนั้นทุกอย่างก็เงียบสงบลงในบัดดล คงมีเพียงเป๋าเป่ากับแม่ที่ยังคงนั่งงงเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกตนกันแน่

พอหายงงแล้วเป๋าเป่าก็ตะโกนด่าเซี่ยงฮ่าวเป็นชุด แต่พอหันมาเห็นแม่มีทีท่าอ่อนแรงเป๋าเป่าก็รีบประคองแม่ให้ลุกขึ้น แม่เป๋าเป่าทั้งเหนื่อยทั้งตกใจจนทำให้อาการกำเริบ เป๋าเป่าเห็นแม่หมดสติและมีอาการชักเกร็งจึงร้องให้คนช่วย เซียวหานได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือจึงเปิดประตูห้องออกมาดู พอเห็นว่ามีคนป่วยเธอจึงบอกให้เป๋าเป่าประคองแม่เข้าไปในห้องของเธอโดยบอกว่าเธอมียาติดตัวมา หลังจากนั้นรถไฟก็เริ่มเคลื่อนตัวออกจากชานชาลา

หลังถูกนำตัวกลับเข้ามาในห้องพักอีกครั้ง เซี่ยงฮ่าวก็แกล้งทำตัวเหมือนคนบ้า ฟู่กวนรู้ทันจึงบอกให้เซี่ยงฮ่าวเลิกเล่นละครเพราะไม่ว่ายังไงตนก็จะพาเซี่ยงฮ่าวไปส่งที่โรงเรียนทหารหลงเฉิงให้จงได้


หลังทานยาของเซียวหานแล้วแม่เป๋าเป่าก็เริ่มสงบลง พอรู้ว่าแม่เป๋าเป่าไปหาหมอมาหลายที่แต่ไม่มีใครฟันธงได้ว่าป่วยเป็นโรคอะไรกันแน่ เซียวหานจึงแนะนำให้เป๋าเป่าพาแม่ไปตรวจที่โรงพยาบาลทหารหลงเฉิงด้วยเห็นว่ารถไฟกำลังมุ่งหน้าไปที่หลงเฉิงพอดี ที่สำคัญโรงพยาบาลดังกล่าวเป็นสถานพยาบาลชั้นนำเชื่อว่าจะต้องรักษาอาการป่วยของแม่เป๋าเป่าได้แน่นอน เมื่อเห็นว่าเป๋าเป่ากังวลเรื่องค่ารักษา เซียวหานจึงบอกว่าเรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงเพราะเธอกำลังจะไปเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนทหารหลงเฉิง เธอชี้ว่าครอบครัวของอาจารย์จะได้รับสิทธิในการรักษาฟรี ถึงแม้ว่าเป๋าเป่ากับแม่จะไม่ได้รับสิทธินั้นแต่เธอจะติดต่อกับทางโรงพยาบาลเพื่อขอยกเว้นค่ารักษาบางส่วนให้ เป๋าเป่าได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเบาใจ เซียวหานรู้สึกแปลกใจที่เป๋าเป่าไม่รู้ว่ารถไฟขบวนนี้กำลังมุ่งหน้าไปที่หลงเฉิง เธอเห็นว่าแขนเสื้อของเป๋าเป่าขาดหลุดรุ่ย เลยถามว่าจะไปเปลี่ยนชุดก่อนไหม พอรู้ว่าเป๋าเป่าไม่มีชุดเปลี่ยน (เป๋าเป่ารีบพาแม่หนีเจ้าหนี้เลยไม่มีเวลาขนเสื้อผ้าติดตัวมา) เซียวหานจึงนำเสื้อผ้าของตนมาให้เป๋าเป่ายืมใส่


ฟู่กวนเล่าให้เซี่ยงฮ่าวฟังว่า ตลอดหนึ่งปีที่เซี่ยงฮ่าวไม่อยู่ หลงเฉิงเปลี่ยนแปลงไปมาก ตอนนี้เสธ.เซี่ยง (พ่อเซี่ยงฮ่าว) ไม่ได้กุมอำนาจทางการทหารเหมือนเมื่อก่อน ท่านนายพลกลัวว่าตระกูลเซี่ยงจะเรืองอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ เลยลดอำนาจทางการทหารแล้วหันไปสนับสนุนผบ.เสิ่นแทน ตอนนี้ผบ.เสิ่นเลยมีกองทัพขนาดใหญ่อยู่ในมือและยังมีตำแหน่งเทียบเท่าเสธ.เซี่ยงอีกด้วย ส่วนอีกคนที่มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กันคือผอ.หลี่  ถึงแม้เขาจะไม่มีอำนาจทางการทหารมากนักแต่ก็เป็นผู้บัญชาการโรงเรียนทหารมานานหลายปี  ทหารส่วนใหญ่จึงเคยเป็นนักเรียนนายทหารของเขา  สองคนนี้จึงเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้ตำแหน่งของท่านนายพลมั่นคง

เซี่ยงฮ่าวถามว่าเล่าเรื่องนี้ให้ตนฟังทำไม ฟู่กวนตอบว่า ตนรู้ว่าเซี่ยงฮ่าวอยู่ที่หยางเฉิงตั้งแต่เมื่อสามเดือนก่อน ที่ตนเฝ้ารอแล้วเพิ่งมาคุมตัวเซี่ยงฮ่าวกลับหลงเฉิงในตอนนี้เป็นเพราะ.... ฟู่กวนยังพูดไม่ทันจบเซี่ยงฮ่าวก็ตัดบทโดยอ้างว่าตนปวดฉี่ ฟู่กวนรู้ว่าเป็นแผนแต่ก็ยอมให้ไปโดยสั่งให้เจ้าหน้าที่สองนายคอยตามประกบ


หลังแนะนำตัวกันแล้ว เป๋าเป่าไม่รู้ว่าจะตอบแทนบุญคุณเซียวหานยังไงจึงอาสาดูดวงให้ โดยโม้ว่าตนมีความรู้ทั้งในเรื่องดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ หยินหยาง และปากัว  (โป๊ยข่วย) ทั้งที่ความจริงแล้วเธอก็แค่ใช้วิธีสังเกตสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัว เป๋าเป่าทายเล่นๆ ว่า เซียวหานเป็นคุณหนูที่เรียนจบจากเมืองนอก มีนิสัยสุภาพอ่อนโยน ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และมีชายในดวงใจที่เฝ้าฝันถึงแต่ไม่ได้พบกันมานาน  เซียวหานทายกลับว่าเป๋าเป่ามีชีวิตที่ขัดสนมาตั้งแต่เด็กๆ และหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นนักแสดง การเดินทางในครั้งนี้คงมีสาเหตุมาจากการที่เป๋าเป่าทำให้คนบางกลุ่มโกรธแค้นเลยต้องรีบหนีขึ้นรถไฟด้วยความหวาดกลัว ที่ผ่านมาเป๋าเป่าคงผ่านความยากลำบากมาไม่น้อย และดูจากรูปร่างลักษณะแล้วเป๋าเป่าต้องเคยฝึกศิลปะการต่อสู้มาหลายแขนง  

หลังจากนั้นเซียวหานก็วิเคราะห์ว่าดูจากทักษะแล้วเป๋าเป่าคงเป็นนักแสดงในคณะเซอร์คัส และการที่เป๋าเป่าไม่รู้ว่ารถไฟขบวนนี้กำลังมุ่งหน้าไปที่หลงเฉิงก็เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเป๋าเป่าคงทำให้คนอื่นโกรธแค้นเลยต้องรีบหนีขึ้นรถไฟด้วยความหวาดกลัว เป๋าเป่าทั้งอึ้ง ทึ่ง และรู้สึกดีใจที่ได้พบคนเก่งในวงการเดียวกัน เซียวหานแย้งว่าตนอยู่คนละวงการกับเป๋าเป่า และตนก็ไม่ใช่นักแสดงแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาที่เพิ่งเรียนจบปริญญาเอกจากประเทศเยอรมนี และกำลังจะเดินทางไปเป็นอาจารย์สอนวิชาจิตวิทยาที่โรงเรียนทหารหลงเฉิง


 

เซี่ยงฮ่าวออกอุบายหลอกเจ้าหน้าที่สองนายที่คอยตามประกบตนและจับทั้งคู่ขังไว้ในห้องน้ำ ก่อนออกไปสูดอากาศ วอร์มร่างกาย และรวบรวมพลังที่ท้ายโบกี้รถไฟหมายกระโดดหนี (รถไฟกำลังแล่นผ่านทุ่งหญ้าพอดี) เมื่อเป๋าเป่ามาพบเข้าก็นึกว่าเซี่ยงฮ่าวจะฆ่าตัวตาย เธอจึงคว้าชายเสื้อคลุมของเซี่ยงฮ่าวเอาไว้ เซี่ยงฮ่าวร้องบอกให้เป๋าเป่าปล่อยตน แต่เป๋าเป่าไม่ยอมปล่อยทั้งยังพยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้เขาเปลี่ยนใจ  หลังยื้อยุดกันได้ครู่หนึ่งทั้งคู่ก็เสียหลัก เซี่ยงฮ่าวร่วงลงมาทับและจูบเป๋าเป่าโดยไม่ได้ตั้งใจ เป๋าเป่าโกรธมากเพราะนี่เป็นจูบแรกของเธอ จึงตรงเข้าตบตีเซี่ยงฮ่าวแบบไม่ยั้ง มิหนำซ้ำยังแหวกอกเสื้อเซี่ยงฮ่าวพลางร้องตะโกนว่าเขาลวนลามเธอ (ปากร้องว่าถูกลวนลามแต่กลับพยายามถอดเสื้อและกางเกงเซี่ยงฮ่าวราวกับจะปลุกปล้ำ) เมื่อฟู่กวนมาพบเข้าทั้งคู่ต่างก็ฟ้องว่าตนถูกล่วงละเมิดทางเพศ ฟู่กวน (ซึ่งเห็นกับตาว่าเป๋าเป่าพยายามถอดเข็มขัดเซี่ยงฮ่าว) จึงรู้สึกสับสนว่าใครถูกลวนลามกันแน่ เซี่ยงฮ่าวคิดฉวยโอกาสหลบหนีช่วงชุลมุนแต่ฟู่กวนรู้ทันจึงคว้าตัวเซี่ยงฮ่าวเอาไว้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่สองนาย (ที่ถูกขังในห้องน้ำก่อนหน้านี้) ก็ช่วยกันลากเซี่ยงฮ่าวกลับเข้าห้อง เป๋าเป่าจึงตามไปไล่เตะ (แต่ฟู่กวนขวางเอาไว้เลยโดนเตะแทน)


เซี่ยงฮ่าวบอกฟู่กวนว่า หากตนคิดจะหนี ต่อให้เขาพาตนไปส่งที่หลงเฉิงได้สำเร็จ ตนก็ต้องหาทางหลบหนีจนได้ ฟู่กวนถามเซี่ยงฮ่าวว่าเขารู้หรือไม่ว่าวันพรุ่งนี้คือวันอะไร เซี่ยงฮ่าวตอบทันควันว่าไม่รู้ ฟู่กวนจึงบอกว่าตอนที่เซี่ยงฮ่าวไปจากโรงเรียนทหารเมื่อหนึ่งปีก่อน พ่อของเซี่ยงฮ่าวไปขอร้องท่านนายพลด้วยตนเองว่าให้ช่วยรักษาสถานะการเป็นนักเรียนทหารของเซี่ยงฮ่าวเอาไว้เป็นเวลาหนึ่งปี และพรุ่งนี้ก็คือวันสุดท้าย นี่จึงเป็นโอกาสสุดท้ายที่เซี่ยงฮ่าวจะได้กลับไปยังโรงเรียนทหารหลงเฉิง ถึงกระนั้นเซี่ยงฮ่าวก็ยังคงยืนกรานว่าตนจะไม่กลับไป ฟู่กวนจึงบอกว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายสำหรับการลงทะเบียนคัดเลือกของหน่วยจี๋อิง ถ้าเซี่ยงฮ่าวไม่กลับไป ตำแหน่งหัวหน้าหน่วยจี๋อิงคนใหม่จะต้องเป็นของเหวินเทาอย่างแน่นอน 

เซี่ยงฮ่าวแย้งว่าใครจะเป็นหัวหน้าหน่วยจี๋อิงคนใหม่ก็ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับตน แต่ฟู่กวนรู้ดีว่าหน่วยจี๋อิงคือความใฝ่ฝันของเซี่ยงฮ่าว เขาชี้ว่าถ้า "เซวียส่าวหัว" ยังอยู่ ตำแหน่งที่ว่าต้องเป็นของส่าวหัวอย่างแน่นอน เมื่อได้ยินชื่อส่าวหัว เซี่ยงฮ่าวก็หวนนึกถึงความหลังที่ยังคงฝังลึกและเป็นปมในใจ ฟู่กวนขอร้องให้เซี่ยงฮ่าวกลับหลงเฉิงโดยบอกว่าทั้งพ่อและเหล่าพี่น้องที่โรงเรียนทหารต่างคิดถึงเซี่ยงฮ่าวมาก เซี่ยงฮ่าวได้ยินแล้วถึงกับน้ำตาคลอเบ้าและยอมรับปากว่าจะกลับหลงเฉิง เพราะเขาเองก็คิดถึงทุกคนเช่นกัน



ในเวลาเดียวกันนั้น เหวินเทาและเพื่อนร่วมทีมก็กำลังฝึกวิชาทหาร โดยมีการจำลองสถานการณ์ให้เขาพาลูกทีมบุกเข้าช่วยตัวประกัน แต่สุดท้ายเหวินเทากลับยิงตัวประกันทิ้งและประกาศกับครูฝึก "โอหยางเฟย" ว่าตนทำภารกิจสำเร็จลุล่วงแล้ว ครูฝึกแย้งว่าภารกิจที่เหวินเทาได้รับมอบหมายคือการเข้าช่วยเหลือตัวประกัน แต่เขากลับฆ่าตัวประกันแล้วภารกิจจะสำเร็จได้อย่างไร เหวินเทาชี้ว่าตัวประกันคนนี้เป็นตัวปลอมที่ศัตรู (ทีมของ "หลี่เทียนฮั่น") นำมาใช้เป็นเหยื่อล่อ แท้จริงแล้วเธอคือมือระเบิดพลีชีพ ถึงแม้พวกตนจะใช้ระเบิดควันแต่ก็ยังนับว่าอันตราย ตนจึงตัดสินใจยิงเธอ เมื่อเหวินเทาเฉลยว่าแท้จริงแล้วตัวประกันอยู่ในกล่องไม้ ครูฝึกโอหยางจึงถามว่าเขารู้ได้อย่างไร เหวินเทากล่าวว่านี่คือวิธีที่หัวหน้าทีมของศัตรู (เทียนฮั่น) ถนัด และตนก็สังเกตจากอากัปกิริยาของเขา หลังภารกิจลุล่วงครูฝึกก็บอกให้เหวินเทาไปรับอาจารย์ผู้หญิงที่สถานีรถไฟในวันพรุ่งนี้ โดยบอกว่าเธอชื่อ "เซียวหาน" เทียนฮั่นได้ยินดังนั้นจึงถามเหวินเทาว่ารู้เรื่องที่เซี่ยงฮ่าวจะกลับมาวันพรุ่งนี้หรือยัง เหวินเทาตอบอย่างไม่ใส่ใจว่าตนรู้แล้วและเดินจากไปทันที

แท้จริงแล้วฟู่กวนกับเซี่ยงฮ่าวเป็นพี่น้องต่างมารดา ฟู่กวนกล่าวว่าพ่อคิดถึงเซี่ยงฮ่าวมาก ตอนนี้ข้างกายพ่อไม่มีใครเลย ถึงแม้ตนจะเป็นลูกพ่อเช่นกันแต่ตนก็เป็นคนตระกูลเหอ (ฟู่กวนใช้แซ่เหอ) และคนที่พ่อคิดถึงมากที่สุดก็คือเซี่ยงฮ่าว เพียงแต่พ่อไม่แสดงออกมาตรงๆ เท่านั้น เซี่ยงฮ่าวจะออกไปนอกห้องแต่ถูกฟู่กวนขวางไว้ เขาจึงบอกว่าตนก็แค่จะออกไปสูดอากาศ ตนสัญญาแล้วว่าจะกลับ ยังไงก็ไม่ผิดคำพูดแน่ ฟู่กวนเชื่อใจเซี่ยงฮ่าวจึงยอมให้เขาออกจากห้องตามต้องการ


 

ทันทีที่ออกจากห้องเซี่ยงฮ่าวก็ถูกคนจับตาและสะกดรอยตาม  เขารู้ตัวว่ามีคนเดินตามจึงเดินไปที่ตู้เสบียง ในตอนนั้นเป๋าเป่ากำลังซื้อขนมแป้ง 3 แผ่น เธอมัวแต่ควานหาเงินในกระเป๋า เซี่ยงฮ่าวเลยคว้าถุงขนมของเธอก่อนหยิบใส่ปากแผ่นหนึ่งแล้วเดินจากไปหน้าตาเฉย เป๋าเป่ารีบวิ่งตามไปทวงคืนทั้งคู่จึงหยุดอยู่ตรงหน้านักฆ่าร่างเล็ก (ซึ่งชักมีดสั้นรอ) พอดี   เป๋าเป่าพยายามแย่งขนมคืน เซี่ยงฮ่าวเลยถือโอกาสใช้ขนมฟาดหน้าคนร้ายและคอยจับตาดูมีดในมือ เป๋าเป่าไม่รู้ว่าเซี่ยงฮ่าวกำลังตกอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานจึงยืนด่าเขาไม่หยุด พอโดนทวงขนมมากๆ เข้า  เซี่ยงฮ่าวก็คืนขนมแป้งที่เหลือทั้งหมดให้ (แต่ยังคงคาบไว้ในปากส่วนหนึ่ง) ถึงกระนั้นเป๋าเป่าก็ยังไม่ยอมเลิกราและเดินตามไปทวงขนมคืน เธออยากให้เขาซื้อคืนให้หนึ่งชิ้นแต่เซี่ยงฮ่าวกลับคายส่วนที่คาบไว้ในปากให้เธอแทน เธอจึงโวยลั่นว่าเขากัดไปแล้วจะให้เธอกินต่อได้อย่างไร

เป๋าเป่าเห็นเด็กชายคนหนึ่งร้องไห้งอแงด้วยความหิวจึงแบ่งขนมแป้งครึ่งแผ่น (ที่เซี่ยงฮ่าวคืนให้หลังขโมยไปกินครึ่งแผ่นก่อนหน้านี้) ให้เด็กชายคนดังกล่าว เด็กคนอื่นๆ เห็นดังนั้นจึงพากันมาขอกินบ้าง เป๋าเป่ากล่าวว่าเธอต้องนำขนมสองแผ่นที่เหลือไปให้แม่ที่กำลังหิว จึงขอเล่นมายากลให้เด็กๆ ดู โดยบอกว่าจะเสกของที่อร่อยกว่า (หมากฝรั่ง) มาให้แทน  (เซี่ยงฮ่าวหยุดดูเป๋าเป่าเล่นกับเด็กๆ ด้วยความรู้สึกประทับใจ) 



ระหว่างเดินกลับห้อง เซี่ยงฮ่าวเดินผ่านเซียวหานซึ่งยืนถือหนังสือพลางเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างบริเวณโถงทางเดินหน้าห้อง (ทั้งคู่พักห้องติดกัน) ปรากฏว่าในหนังสือมีภาพถ่ายของเซี่ยงฮ่าวซึ่งอยู่ในเครื่องแบบทหาร พอมองรูปแล้วเซียวหานก็นึกถึงเหตุการณ์ในวัยเด็กตอนที่เธอกำลังจะจมน้ำ โชคดีที่มีเด็กชายคนหนึ่งมาช่วย พอรู้สึกตัวอีกครั้งเธอก็อยู่บนฝั่งโดยมีเด็กชายเซี่ยงฮ่าวนั่งเฝ้าไม่ห่าง เธอจึงบอกกับเซี่ยงฮ่าวว่าถ้าโตขึ้นเมื่อไหร่เธอจะแต่งงานกับเขา เพราะเขาเป็นคนช่วยชีวิตเธอ

พอรู้ว่ามีใครบางคนพยายามลอบสังหารเซี่ยงฮ่าว ฟู่กวนก็โหลดกระสุนเตรียมไว้ทันที เซี่ยงฮ่าวกล่าวว่าคนบนรถไฟที่ตามฆ่าตนไม่ได้มีแค่คนเดียว เขาตั้งข้อสังเกตว่าตลอดหนึ่งปีที่ตนไปจากหลงเฉิงไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น แต่ทันทีที่ขึ้นรถไฟกลับก็ถูกหมายหัวทันที เขามั่นใจว่าเรื่องนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับการที่ตนกลับไปยังโรงเรียนทหารหลงเฉิงแน่นอน ฟู่กวนเห็นด้วยและชี้ว่าตำแหน่งหัวหน้าหน่วยจี๋อิงมีความสำคัญกับหลงเฉิงและตระกูลเซี่ยงมาก เขาจะออกไปสั่งให้ลูกน้องสืบหาคนร้าย แต่เซี่ยงฮ่าวแนะให้นอนเอาแรงก่อนเพราะคืนนี้ทั้งฟู่กวนและตนคงถูกรังควานจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน




ปรากฏว่าคืนนั้นเหล่านักฆ่าที่มีมีดเป็นอาวุธได้บุกไปสังหารเซี่ยงฮ่าวถึงในห้องพักจริงๆ เซี่ยงฮ่าวมีโอกาสฆ่าคนร้ายหลายครั้งแต่เขากลับไม่ยอมฆ่า ในขณะที่คนร้ายพยายามหาโอกาสจ้วงแทงเซี่ยงฮ่าวตลอดเวลา ถึงกระนั้นเซี่ยงฮ่าวก็เอาอยู่ ฟู่กวนกับเจ้าหน้าที่อีกสองนายช่วยกันคุมตัวมือมีดอีกคนที่ยืนคุมเชิงอยู่ทางหน้าห้อง แต่โชคร้ายที่ยังมีนักฆ่าอีกคนซึ่งใช้ปืนเป็นอาวุธ ทำให้เจ้าหน้าที่ทั้งสองนายและฟู่กวนถูกลอบยิง เซี่ยงฮ่าวได้ยินเสียงปืนจึงรีบหนีขึ้นไปบนหลังคา เหล่านักฆ่าที่เป็นมือมีดจึงรีบปีนตามขึ้นไป ส่วนอีกคนที่มีปืนก็ยิงทะลุหลังคาจนกระสุนหมดทำให้ต้องโหลดกระสุนใหม่ เซียวหานได้ยินเสียงดังทางด้านนอกจึงเปิดประตูออกไปดู ทำให้เจอคนร้ายกำลังยืนโหลดกระสุนที่หน้าห้องพอดี เซียวหานพยายามร้องให้คนช่วยคนร้ายจึงคิดฆ่าเธอปิดปาก แต่เป๋าเป่าออกมาเห็นเข้าเสียก่อนจึงช่วยกัดมือคนร้าย พอปืนร่วงลงพื้นเป๋าเป่าก็รีบเตะปืนออกไปให้พ้นตัว 

หลังจากนั้นเป๋าเป่าก็พยายามต่อสู้กับคนร้ายด้วยมือเปล่าพลางร้องบอกให้เซียวหานรีบหนีไป  (แม้จะทำปืนหลุดมือแต่คนร้ายยังคงมีมีด)  ไม่นานเป๋าเป่าก็ถูกทำร้ายจนถึงกับจุก เซียวหานวิ่งหนีพลางร้องขอความช่วยเหลือแต่คนร้ายก็ตามไปจนทันและพยายามใช้มีดสั้นแทงเธอ  ตอนแรกเซียวหานคว้าแขนคนร้ายเอาไว้ได้แต่สุดท้ายก็ถูกมีดแทงที่ไหล่ นับว่ายังโชคดีที่แผลไม่ลึกมากนักเพราะเป๋าเป่ามาช่วยเอาไว้ได้ทันเวลา เซียวหานเห็นปืนตกอยู่ที่พื้นจึงหยิบขึ้นมาเล็งใส่คนร้ายอย่างกล้าๆ กลัว  คนร้ายเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งไปปลดสไลด์แล้วเทกระสุนออก จากนั้นก็ตรงเข้าบีบคอเซียวหาน เซียวหานจึงใช้ส้นสูงเหยียบเท้าคนร้ายแล้วพยายามวิ่งหนีไปอีกโบกี้หนึ่ง แต่คนร้ายก็ตามมาล็อคตัวเธอจนได้ เซียวหานคว้าแขนคนร้ายเอาไว้เพื่อไม่ให้เขาใช้มีดแทงเธอ แต่สุดท้ายก็โดนผลักตกจากรถไฟ (ซึ่งกำลังวิ่งข้ามสะพานสูงเหนือแม่น้ำ) ต่อหน้าต่อตาเป๋าเป่า 


ในตอนนั้นเซี่ยงฮ่าวเพิ่งจัดการนักฆ่าคนสุดท้ายบนหลังคารถไฟได้สำเร็จ เขาเห็นว่าเป๋าเป่ากำลังถูกทำร้ายจึงรีบวิ่งลงมาช่วย  แต่เป๋าเป่าถูกทำร้ายจนสลบเหมือดไปเสียก่อน  เซี่ยงฮ่าวจัดการคนร้ายจนหมอบราบคาบและพยายามถามว่าใครเป็นคนบงการแต่คนร้ายกลับชิงฆ่าตัวตาย พอเป๋าเป่าฟื้นเธอก็ถูกเจ้าหน้าที่บนรถไฟเข้าใจผิดว่าเป็นเซียวหาน เมื่อรู้ว่าคนร้ายไม่ได้มาตามฆ่าพวกตนแต่ต้องการฆ่าเซี่ยงฮ่าวซึ่งพักอยู่ห้องข้างๆ เป๋าเป่าก็ยิ่งโมโหและยืนด่าเซี่ยงฮ่าวเป็นชุดเพราะคิดว่าเซี่ยงฮ่าวเป็นตัวซวย ทันใดนั้น แม่ของเป๋าเป่าก็อาการกำเริบอีกครั้ง เซี่ยงฮ่าวรู้สึกเป็นห่วงเลยจะเข้าไปดูแต่กลับถูกเป๋าเป่าไล่ตะเพิดออกจากห้อง คราวนี้แม่เป๋าเป่าปวดหัวหนักมากจนถึงขั้นร้องออกมาว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป เป๋าเป่าเห็นแม่ทุรนทุรายจึงได้แต่ร่ำไห้ด้วยความสงสาร ถึงกระนั้นเธอก็ขอให้แม่อดทนและให้คำมั่นว่าตนจะต้องรักษาอาการป่วยของแม่ให้หาย


เซี่ยงฮ่าวช่วยผ่าเอากระสุนที่ฝังในออกให้ฟู่กวน จากนั้นก็ขอโทษที่ลากฟู่กวนและเจ้าหน้าที่อีกสองนายเข้ามาเกี่ยวข้องจนทำให้เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนเสียชีวิต เขาขอให้ฟู่กวนช่วยดูแลครอบครัวของเจ้าหน้าที่ทั้งสองแทนตน และนึกสงสัยว่าใครกันแน่ที่ต้องการฆ่าตน ฟู่กวนกล่าวว่ามีหลายคนต้องการขึ้นไปยืนในตำแหน่งของเสธ.เซี่ยง และเนื่องจากเซี่ยงฮ่าวเป็นลูกชายคนเดียวของเสธ.เซี่ยงจึงทำให้ถูกหมายหัว (แม้ฟู่กวนจะเป็นลูกเสธ.เซี่ยงเช่นกัน แต่เขาเป็นลูกนอกกฏหมายและใช้คนละแซ่) ฟู่กวนกล่าวว่ายังเร็วเกินไปที่จะฟันธงว่าใครทำ กลับไปถึงหลงเฉิงเมื่อไหร่ตนจะรายงานเสธ.เซี่ยงอย่างละเอียดด้วยตนเอง และจะสืบหาว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง ถ้ารู้ตัวคนผิดเมื่อไหร่ตนไม่เอาไว้แน่ เซี่ยงฮ่าวชูกระสุนที่เพิ่งผ่าออกมาจากตัวฟู่กวนพลางบอกว่าตนเป็นหนี้เขาหนึ่งนัด (ฟู่กวนเรียกพ่อว่าเสธ.เซี่ยง และเรียกเซี่ยงฮ่าวว่านายน้อย)


แม่เป๋าเป่าแทบช็อคเมื่อรู้ว่าลูกสาวจะสวมรอยเป็นเซียวหานแล้วเข้าไปเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนทหารหลงเฉิง เพื่อให้ตนได้รับสิทธิในการรักษาพยาบาลฟรี เธอกล่าวว่าถึงแม้จะไม่มีใครรู้เห็นเรื่องการตายของเซียวหานแต่เป๋าเป่าก็ไม่ควรทำเยี่ยงนี้เพราะเซียวหานเป็นผู้มีพระคุณของเธอ เธอไม่อยากเป็นภาระของเป๋าเป่า ทั้งยังไม่อยากให้ลูกสาวทำผิดจึงบอกว่าแค่ปล่อยให้เธอตายทุกอย่างก็จบ แต่เป๋าเป่าไม่ยอม แม้จะรู้ว่าเป็นบาปกรรมและไม่ถูกต้อง แต่เป๋าเป่าอยากให้แม่หายป่วยจึงพร้อมยอมทำทุกอย่างและยินดีรับผลกรรมที่จะตามมา เธอตั้งใจว่าจะรักษาแม่ให้หายก่อนแล้วค่อยไปขอขมาและสารภาพความผิดบาปกับครอบครัวของเซียวหาน

ครูฝึกโอหยางเฟยเดินผ่านแม่น้ำแล้วเห็นร่างคนลอยอยู่จึงรีบวิ่งเข้าไปช่วย ปรากฏว่าคนที่เขาอุ้มขึ้นฝั่งคือ เซียวหาน หลังตรวจสอบชีพจรแล้วพบว่าหญิงสาวยังไม่ตายเขาเลยรีบอุ้มเธอไปส่งโรงพยาบาล




"เสิ่นเหวินอวี่" ตื่นเต้นดีใจสุดๆ ที่จะได้พบกับเซี่ยงฮ่าวอีกครั้ง เหวินเทาเห็นน้องสาวคลั่งไคล้เซี่ยงฮ่าวแบบไม่ลืมหูลืมตาก็รู้สึกอ่อนใจ ในตอนนั้นเซี่ยงฮ่าวยังคงอยู่บนรถไฟ เขาแปลงโฉมตนเองเสียใหม่ด้วยการตัดผมเผ้าและโกนหนวดเคราที่รกรุงรังให้เรียบร้อย จากนั้นก็สวมเครื่องแบบนักเรียนทหาร ส่วนเป๋าเป่านำเสื้อผ้าของเซียวหานมาสวมและกำชับแม่ว่านับจากนี้ตนคือเซียวหาน ส่วนแม่คือแม่นมของเซียวหาน เธอรวบรวมข้าวของๆ เซียวหานใส่กระเป๋าเดินทาง พลางนึกขอโทษเซียวหานในใจและบอกเซียวหานว่าหลังพาแม่ไปรักษาแล้วเธอจะตามหาครอบครัวของเซียวหานและจะนำข้าวของๆ เซียวหานไปคืนให้กับทางครอบครัว ทันใดนั้น ก็มีเสียงคนเคาะประตู เมื่อเป๋าเป่าออกไปดูก็พบเซี่ยงฮ่าวยืนโพสท่าหล่ออยู่หน้าห้อง ตอนแรกเป๋าเป่าจำเซี่ยงฮ่าวไม่ได้เลยพูดจาสุภาพและวางมาดเป็นกุลสตรี พอเซี่ยงฮ่าวถามถึงอาการป่วยของแม่เธอๆ ก็จำเสียงเขาได้และกลายร่างเป็นสาวสติแตกทันที  เป๋าเป่าไม่ยอมให้เซี่ยงฮ่าวเข้าไปเยี่ยมแม่ในห้องแต่เขาก็ยังดึงดันที่จะเข้าไป หลังห้ามแล้วไม่ฟังเธอเลยทั้งเห่าและกัดเซี่ยงฮ่าว ทำเอาเซี่ยงฮ่าวถึงกับอึ้ง



เหล่าบรรดาสาวๆ รวมทั้งเหวินอวี่ต่างพากันหอบช่อดอกไม้ไปรอรับเซี่ยงฮ่าวที่สถานีรถไฟ ขณะที่นักเรียนทหาร "กู้เสี่ยวไป๋" กับ "ตู้เฟิง" ก็พาเพื่อนๆ ไปรอรับเซี่ยงฮ่าวเช่นกัน เสี่ยวไป๋เห็นสาวๆ คลั่งไคล้เซี่ยงฮ่าวจึงเปรยว่า แม้เซี่ยงฮ่าวจะหายตัวไปนานนับปีแต่ข่าวลือเกี่ยวกับเขายังคงเป็นที่ร่ำลือไปทั่วทั้งเมือง ตู้เฟิงกล่าวว่าทุกคนที่หลงเฉิงต่างก็เกลียดเซี่ยงฮ่าว ผู้ชายเกลียดเขาเพราะเขาเหนือกว่า ส่วนสาวๆ ก็จงเกลียดจงชังเพราะเขาไม่รับรักพวกเธอ เหวินเทา พร้อม "เกาเหม่ยเหริน" กับ  "หานซวี่" และเพื่อนๆ ในทีม พากันเดินแหวกวงล้อมของสาวๆ (รวมทั้งน้องสาวของเหวินเทา) เพื่อไปรอรับอาจารย์ผู้หญิงคนใหม่ทางด้านใน โดยยืนข้างๆ กลุ่มของเสี่ยวไป๋กับตู้เฟิง ทำให้ทั้งสองกลุ่มเกิดปะทะคารมกันเล็กน้อย

เมื่อรถไฟเข้าจอดในชานชาลา เป๋าเป่ากับเซี่ยวฮ่าวซึ่งต่างก็เพิ่งออกจากห้องพักบังเอิญเจอกันอีกครั้ง เซี่ยวฮ่าวยกมือข้างที่ถูกเป๋าเป่ากัดขึ้นมาดูพลางกล่าวว่าขออย่าได้พบเจอกันอีก เป๋าเป่าเป็นคนปากไวอยู่แล้วจึงสวนกลับทันที ทั้งยังกล่าวหาว่าเซี่ยวฮ่าวขโมยเครื่องแบบคนอื่นมาใส่ เซี่ยวฮ่าวแย้งว่าตนไม่ใช่นักโทษแต่เป็น... เขาพูดยังไม่ทันจบฟู่กวนก็บอกว่าได้เวลาลงรถไฟแล้ว  เป๋าเป่าได้ยินฟู่กวนเรียกเซี่ยวฮ่าวว่านายน้อยก็รู้สึกขำเพราะไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นนายน้อยจริงๆ




เซี่ยงฮ่าวเห็นเพื่อนๆ มารอรับตนกันอย่างพร้อมหน้าก็รู้สึกดีใจ เขาเดินตรงไปหาเหวินเทา เหวินเทาจึงทักว่าในที่สุดเขาก็กลับมา เซี่ยงฮ่าวกล่าวขอโทษที่ทำให้เหวินเทาผิดหวัง เหวินเทาจึงกล่าวว่าถ้าไม่มีเซี่ยงฮ่าวการคัดเลือกหน่วยจี๋อิงคงไม่สนุก เซี่ยงฮ่าวสวนกลับว่านับจากนี้ตนคงทำให้เหวินเทาประสบแต่ความพ่ายแพ้ เหวินเทาได้แต่ยิ้มที่มุมปากและไม่ต่อปากต่อคำด้วย เขาเหลือบไปเห็นเป๋าเป่าจึงเดินเข้าไปถามอย่างสุภาพว่าเธอคืออาจารย์เซียวใช่ไหม เมื่อเป๋าเป่าตอบว่าใช่เขาจึงบอกเธอว่าตนได้รับมอบหมายให้มารับเธอ (พอรู้ว่าคู่กัดของตนคืออาจารย์คนใหม่ เซี่ยงฮ่าวก็ถึงกับตกตะลึง) ถึงกระนั้นเป๋าเป่ากับเซี่ยงฮ่าวก็ยังไม่วายทะเลาะกัน เป๋าเป่าเห็นเซี่ยงฮ่าวเดินตามหลังเธอมาจึงถามเสียงเข้มว่าตามตนมาทำไม  เซี่ยงฮ่าวสวนกลับว่าอย่าหลงตัวเองและชี้ว่าที่ตนเดินมาทางนี้เพราะทางออกมีทางเดียว เหวินเทาเห็นดังนั้นจึงถามทั้งคู่ว่ารู้จักกันด้วยหรือ เมื่อเป๋าเป่ากับเซี่ยงฮ่าวพร้อมใจกันปฏิเสธว่าไม่เคยรู้จักกัน เหวินเทาก็บอกเป๋าเป่าว่าดีแล้วที่เธอไม่รู้จักเซี่ยงฮ่าว

เทียนฮั่นพาเพื่อนอีกกลุ่มไปที่สถานีรถไฟ เขาบอกให้เพื่อนคนหนึ่งไปแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทที่สถานีรถไฟ เพื่อนคนดังกล่าวรู้สึกสงสัยว่าจะให้ตนไปแจ้งทำไมในเมื่อสถานการณ์เป็นปกติดี เพื่อนอีกคนในทีมจึงชี้ว่าตอนนี้ยังไม่มีแต่อีกเดี๋ยวก็มีเอง ที่แท้เทียนฮั่นเป็นคนปล่อยข่าวเรื่องที่เซี่ยงฮ่าวจะกลับมาหลงเฉิง ทั้งยังพาเพื่อนๆ มาสร้างสถานการณ์ให้กลุ่มของเหวินเทากับเซี่ยงฮ่าวเข้าใจกันผิดจนถึงขั้นชกต่อยกัน หวังสกัดไม่ให้คู่แข่งตัวฉกาจอย่างเหวินเทากับเซี่ยงฮ่าวเข้าร่วมการคัดเลือกหน่วยจี๋อิง เหม่ยเหรินกับเสี่ยวไป๋โดนคนของเทียนฮั่นตบหัวระหว่างตกอยู่ในวงล้อมของสาวๆ ที่กรูกันเข้ามาหาเซี่ยงฮ่าว จึงคิดว่าอีกฝ่ายหาเรื่องพวกตน หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็เริ่มชกต่อยกัน เหวินเทากับเซี่ยงฮ่าวพยายามห้ามปรามเพื่อนๆ แต่ก็ไม่เป็นผล



 

เมื่อเหวินเทากับเซี่ยงฮ่าวเผชิญหน้ากัน เหวินเทาก็ตำหนิเซี่ยงฮ่าวว่าชอบก่อเรื่อง เซี่ยงฮ่าวท้าให้เหวินเทาต่อยตนถ้าทนเห็นตนไม่ได้ ในที่สุดทั้งคู่ก็เริ่มชกต่อยกัน แม้จะตกอยู่ท่ามกลางเหตุทะเลาะวิวาท แต่เป๋าเป่าทำต่างหูที่พ่อซื้อให้หลุดเลยพยายามก้มหา ในที่สุดเธอก็พบว่าต่างหูร่วงอยู่บนพื้น ครั้นจะก้มลงเก็บ ต่างหูของเธอก็ถูกเซี่ยงฮ่าว (ซึ่งกำลังชกต่อยกับเหวินเทา) ทั้งเตะและเหยียบ เธอจึงเดินไปหาเซี่ยงฮ่าวแล้วบอกให้ยกเท้าเหม็นๆ ขึ้น เซี่ยงฮ่าวไม่เข้าใจว่าเป๋าเป่าต้องการอะไรกันแน่จึงได้แต่ทำหน้างง เป๋าเป่าจึงเหยียบเท้าเซี่ยงฮ่าวเต็มแรง พอเซี่ยงฮ่าวยกเท้าขึ้นเธอก็ก้มลงหยิบต่างหูขึ้นมาปัดขี้ฝุ่นแล้วเดินจากไป เซี่ยงฮ่าวตะโกนไล่หลังเป๋าเป่าว่า 'ยัยแม่มดหน้าเหม็น' ด้วยความแค้น  เป๋าเป่าเลยหยิบลูกพลับที่ร่วงอยู่บนพื้นมาขว้างใส่เซี่ยงฮ่าว สองหนุ่มเห็นดังนั้นก็รีบเบี่ยงตัวหลบ ทำให้ลูกพลับโดนตาเจ้าหน้าที่ตำรวจแบบเต็มๆ เป๋าเป่าแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้และจะเดินหนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวเรียกให้หยุดและประกาศว่าเธอทำร้ายเจ้าพนักงาน และนั่นก็ทำให้เป๋าเป่าถูกรวบตัวไปโรงพักพร้อมกับเหล่านักเรียนทหาร

ผบ.เสิ่นต่อสายถึงสารวัตรใหญ่ประจำโรงพัก (ซึ่งเป็นคนที่เขาเคยให้ความช่วยเหลือและคอยสนับสนุน) เพื่อให้ช่วยเคลียร์คดีของเหวินเทาและมอบหมายภารกิจลับบางอย่างให้ทำ หลังจากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่โรงเรียนทหารหลงเฉิงทันที (เพราะวันนี้จะมีการคัดเลือกของหน่วยจี๋อิง)



เป๋าเป่าถูกนำตัวมาที่ห้องขังโดยเจ้าหน้าที่ให้เธอเลือกเองว่าจะเข้าห้องไหน (ฝั่งหนึ่งเป็นพวกของเหวินเทา อีกฝั่งเป็นพวกของเซี่ยงฮ่าว) ตอนแรกเป๋าเป่าจะเข้าไปอยู่กับพวกเหวินเทา แต่พอเซี่ยงฮ่าวผิวปากเรียกอย่างท้าทายเธอก็เปลี่ยนใจ เซี่ยงฮ่าวจะโชว์ความเก๋าแต่กลับถูกเป๋าเป่าชกหน้าติดต่อกันถึงสองหมัดแบบไม่ทันตั้งตัว โทษฐานที่ทำให้เธอติดคุกและพลัดหลงกับแม่นม  เซี่ยงฮ่าวเตือนว่าที่ตนไม่ตอบโต้เป็นเพราะตนไม่เคยทำร้ายผู้หญิง เป๋าเป่าได้ยินดังนั้นเลยจัดให้อีกหมัด ตู้เฟิงจะอ้าปากเตือนแต่แล้วก็เปลี่ยนใจเพราะไม่อยากโดนชก เสี่ยวไป๋เห็นเพื่อนรักโดนรังแกเลยจะเข้าไปตำหนิเป๋าเป่า ตู้เฟิงจึงรีบห้ามเอาไว้โดยบอกว่าทั้งคู่กำลังจู๋จี๋กัน



เซี่ยงฮ่าวกระซิบบอกเป๋าเป่าว่าเธอกำลังทำให้เขาเสียหน้า พูดจบจมูกของเขาก็เริ่มมีเลือดกำเดาไหลออกมา เป๋าเป่าตำหนิเซี่ยงฮ่าวเรื่องที่เขาชอบก่อเรื่อง จากนั้นก็บอกว่าวันนี้เธอได้รับบัญชาจากสวรรค์ให้มากำราบคนที่ชอบใช้ความรุนแรงและนำสันติสุขกลับคืนมา (เป๋าเป่าเห็นเลือดกำเดาไหลลงปากเซี่ยงฮ่าวก็รู้สึกขยะแขยง) เหม่ยเหรินเห็นดังนั้นก็ชอบใจ เขากล่าวว่าเป๋าเป่าจังหวะดีแต่แรงน้อยไปหน่อย เซี่ยงฮ่าวจึงเตือนว่าถ้าเธอกล้าชกตนอีกครั้ง... เขาพูดยังไม่ทันจบเป๋าเป่าก็ง้างหมัดใส่อีกครั้งแต่คราวนี้เซี่ยงฮ่าวจับมือเธอเอาไว้ได้ทัน เป๋าเป่าเลยหันมาเหยียบเท้าของเขาแทน หลังจากนั้นเป๋าเป่าก็ไล่ตีเซี่ยงฮ่าวแบบไม่ยั้งท่ามกลางความตกตะลึงของเพื่อนๆ (แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วย) ก่อนปิดท้ายด้วยการกระโดดถีบจนทำให้เซี่ยงฮ่าวน่วมไปทั้งตัว


ครั้นพอเป๋าเป่าถูกนำตัวออกจากห้องขัง เสี่ยวไป๋กับตู้เฟิงก็เดินเข้าไปบอกเซี่ยงฮ่าวซึ่งนั่งหลบอยู่ตรงมุมห้องว่าเป๋าเป่าออกไปแล้ว แต่เซี่ยงฮ่าวยังคงหวาดผวาจึงไม่ยอมให้เพื่อนเข้าใกล้ พอตั้งสติได้เซี่ยงฮ่าวก็กลับมาวางท่าและท้าให้เป๋าเป่ากลับมาโดยประกาศลั่นห้องขังว่าตนไม่กลัวเธอสักนิด ก่อนกลบเกลื่อนอาการเสียหน้าด้วยการเสยผมแล้วบอกลูกทีมว่า นี่คือบทเรียนแรกที่ตนต้องการสอนทุกคน จากนั้นก็สั่งทุกคนว่าห้ามทำร้ายผู้หญิงโดยเด็ดขาด เสี่ยวไป๋กับตู้เฟิงได้ยินดังนั้นเลยได้แต่ทำหน้าเซ็ง

เรื่องราวของพวกเขาเหล่านี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามชมได้ใน "ฟ้าสั่งให้รักเธอ (Destined to Love you)" ทางช่องไทยรัฐทีวี

* เนื้อหาโดย luvasianseries


นักแสดงนำ


เฉินเฉียวอัน (โจ เฉิน)
รับบท เฉียนเป๋าเป่า
(นักแสดง / นักร้อง / ผู้ดำเนินรายการ ชาวไต้หวัน)



เจี่ยหน่ายเลี่ยง
รับบท เซี่ยงฮ่าว
(นักแสดง ชาวจีน)



หวงจงเจ๋อ (บอสโค หว่อง)
รับบท เสิ่นเหวินเทา
(นักแสดง / นักร้อง ชาวฮ่องกง)



จางอวิ๋นหลง
รับบท กู้เสี่ยวไป๋
(นักแสดง ชาวจีน)



เกาเหว่ยกวง
รับบท ตู้เฟิง
(นักแสดง / นายแบบ ชาวจีน)



สวี่เส้าสยง
รับบท หลี่จี้โจว
(นักแสดง ชาวฮ่องกง)



เจิ้งส่วง
รับบท เซียวหาน
(นักแสดง ชาวจีน)



เจิ้งหลง
รับบท หานซวี่
(นักแสดง ชาวจีน)



หลี่จื่อเฟิง
รับบท เกาเหม่ยเหริน
(นักแสดง / นายแบบ ชาวจีน)



ถานจวิ้นเยี่ยน
รับบท โอหยางเฟย
(นักแสดง ชาวฮ่องกง)



สวีฉีเฟิง
รับบท หลี่เทียนฮั่น
(นักแสดง ชาวจีน)



หลิวเถียนหรู่
รับบท เสิ่นเหวินอวี่
(นักแสดง / นางแบบ ชาวจีน)



หวังซิ่วจู๋
รับบท เซวียส่าวฉี
(นักแสดง ชาวจีน)



จ้าวจิ่วอี้
รับบท ซูรุ่ย
(นักแสดง ชาวจีน)



วังหยาง
รับบท เซี่ยเทียนเจียว
(นักแสดง ชาวจีน)




รวมคลิปตัวอย่าง



รวมคลิปเบื้องหลัง


*** หากท่านเป็นเจ้าของลิขสิทธิภาพ / เนื้อหา / คลิป ที่ปรากฏในหน้านี้ และไม่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ซ้ำ กรุณาแจ้งมายังอีเมล์ luvasianseries@hotmail.com เพื่อที่เราจะได้ทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ***

1 ความคิดเห็น:

เพื่อป้องกันสแปม ความเห็นของคุณจะปรากฏทันทีที่ได้รับการตรวจสอบจากเรา